แอร์เอเชียตอกย้ำความแข็งแกร่งฮับเชียงใหม่ พร้อมบินสู่ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และเส้นทางบินข้ามภาค สูงสุด 17เที่ยวบินต่อวัน หวังช่วยฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว รับนโยบายเปิดประเทศต่อเนื่อง ตั้งเป้าทั้งปีมีผู้โดยสาร 12.3 ล้านคน ภายในสิ้นปี 65 หวังเปิดบริการให้ได้ 100% ปิดเทอมจังหวัดยอดฮิตคนเดินทาง “กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่”
วันที่ 29 เมษายน 2565 นายสุรพันธ์ หอมขจร ผู้จัดการสายการบินไทยแอร์เอเชีย ประจำท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตั้งโต๊ะจิบกาแฟพูดคุยผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ ประเด็น…. “สายการบินแอร์เอเชียตอกย้ำความแข็งแกร่งฐานปฏิบัติการบินเชียงใหม่ พร้อมให้บริการบินเส้นทางบินภายในประเทศรวม 8 เส้นทาง จากเชียงใหม่ สู่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และเส้นทางบินข้ามภาค 6 เส้นทาง คาดการเดินทางเติบโต เชื่อมั่นช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูเก็ตเติบโต ภายใต้มาตรฐานด้านสุขอนามัยที่เข้มข้นรัดกุม”
นายสุรพันธ์ หอมขจร ผู้จัดการสายการบินไทยแอร์เอเชีย ประจำท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวเดินทางที่สำคัญของประเทศไทย รวมทั้งสายการบินแอร์เอเชียที่มีฐานปฏิบัติการการบินอยู่ที่เชียงใหม่ยาวนาน โดยปัจจุบันมีเครื่องบินประจำการอยู่ที่เชียงใหม่จำนวน 3 ลำ ซึ่งหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย ไทยแอร์เอเชียได้ทยอยกลับมาเปิดเส้นทางภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเปิดบินตรงจากเชียงใหม่ สู่ 8 เส้นทาง รวมมากกว่า 17 เที่ยวบินต่อวัน จากเชียงใหม่บินตรงสู่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ และ หัวหิน โดยได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง มีอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยร้อยละ 75 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
“เชียงใหม่ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ เพราะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน เชียงใหม่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวในใจของทุกคน อีกทั้งการที่แอร์เอเชียกลับมาให้บริการครบทุกเส้นทาง ทั้งจากดอนเมือง รวมถึงสุวรรณภูมิ และยังมีเส้นทางบินข้ามภาค ยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น และหากมีความต้องการบินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แอร์เอเชียก็พร้อมจะเพิ่มความถี่ในแต่ละเส้นทางให้ตอบสนองการเดินทางของทุกท่านเช่นเดียวกัน” นายสุรพันธ์ฯ กล่าว
นอกจากเส้นทางภายในประเทศแล้ว แอร์เอเชีย มาเลเซีย (รหัสเที่ยวบิน AK) ยังจะกลับมาให้บริการเส้นทางเชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศ ที่จะกลับมาในอีกไม่ช้า อีกทั้งประเทศไทยยังผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศให้สะดวกมากขึ้น โดยยกเลิกมาตรการ Test & Go และการตรวจหาเชื้อเเบบ RT-PCR น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งเสริมการเดินทางระหว่างประเทศให้เติบโต ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมให้ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ตามสายการบินไทยแอร์เอเชียยังพร้อมให้บริการด้านมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ทั้งการกรองอากาศด้วย Hepa Filter ที่กรองอนุภาคขนาดเล็กเชื้อไวรัสเเบคทีเรียได้มากกว่า 99.99% การทำความสะอาดฆ่าเชื้อห้องโดยสารและจุดสัมผัสต่างๆ ในทุกเที่ยวบินเป็นประจำ
สำหรับปี 2565 สายการบินไทยแอร์เป้าขนส่งผู้โดยสารทุกเส้นทางตลอดปีอยู่ที่ 12.3 ล้านคน ด้วยฝูงบิน 53 ลำ ณ สิ้นปี ทั้งนี้คาดว่าเส้นทางภายในประเทศจะสามารถกลับมาให้บริการได้ 100% ภายในปีนี้ ในขณะที่เส้นทางระหว่างประเทศจะทยอยเพิ่มเส้นทางและความถี่บินต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามไทยแอร์เอเชียยังยึดมั่นในมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยในการเดินทางอย่างเต็มที่เหมือนเดิม
ปัจจุบันแอร์เอเชียให้บริการเส้นทางบิน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ คือ เส้นทางภายในประเทศ (ให้บริการปัจจุบัน) มี 8 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่-ดอนเมือง สูงสุด 8 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ สูงสุด 3 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่-ขอนแก่น 1 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่-หาดใหญ่ 1 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่-ภูเก็ต สูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่-กระบี่ สูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่-สุราษฎร์ธานี 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วัน..จันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์) เชียงใหม่-หัวหิน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วัน..ศุกร์ อาทิตย์) นอกจากนี้ยังมีเส้นทางระหว่างประเทศ 1 เส้นทาง โดยเริ่มบินวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วัน…จันทร์ ศุกร์ อาทิตย์)
“ราคาตั๋วขณะนี้ยังเป็นราคาเดิม ที่ผ่านมาพบว่าเส้นทางการบินข้ามภาคมีผู้ใช้บริการมาก ผู้โดยสารเกินกว่า 90% ในทุกเที่ยวบิน ซึ่งเป็นผลจากช่วงนี้เป็นช่วงวันปิดภาคเรียนมีการเดินทางท่องเที่ยวมาก 3 เส้นทางที่มีการเดินทางมาก ได้แก่ เชียงใหม่-กระบี่ เชียงใหม่-ภูเก็ต และ เชียงใหม่-หาดใหญ่ ส่วนการจะขยายเส้นทางการบินหรือไม่ก็ต้องพิจารณาความต้องการในการเดินทางในแต่ละเส้นทาง” นายสุรพันธ์ฯ กล่าว
สำหรับเป้าหมายที่จะกลับมาให้บริการ 100% ภายในปีนี้ ตัวชี้วัดสำคัญคือ การที่จะเปิดเส้นทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นในอีก 7 ประเทศ ส่วนเส้นทางการบินภายในประเทศขยับจาก 17 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 35 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นเป้าหมายที่มีการเดินทางเข้ามามากที่สุดในภูมิภาคของประเทศ
