วันศุกร์, 11 ตุลาคม 2567

ยึดไม้เถื่อนกลางบ้านถวาย คาดเตรียมส่งนอก สอบสวนกลางบุกจับ

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ ชุดพญาเสือ ตำรวจตระเวนชายแดน 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กก.สืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.13 สนธิกำลังบุกยึดไม้เถื่อนประกอบด้วยไม่ชิงชันแปรรูป ไม้ประดู่แปรรูป และปมประดู่ มูลค่า 10 ล้านบาท ในโกดังกลางบ้านถวาย อ.หางดง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเตรียมส่งออกต่างประเทศ หลังเจ้าหน้าที่ฝั่ง GPS ไว้กับไม้ที่ถูกแปรรุปกลางป่าก่อนสะกดรอย ขบวนการลักลอบค้าไม้เถื่อนมาพักไว้ในโกดัง เตรียมส่งขายให้กับนายทุนชาวต่างชาติ

กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กก.สืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.13 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโรงงานไม่มีเลขที่ ท้องที่บ้านหนองแก๋ว ต.หนองแก๋ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ย่านบ้านถวายซึ่งแหล่งท่องเที่ยวจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าหัตถกรรมชื่อดัง จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบไม้ชิงชันแปรรูป ขนาด 12×12 นิ้ว และขนาด 8×8 นิ้วรวมทั้งหมด 65 ท่อน และไม้ประดู่แปรรูป 70 นิ้ว หนา 3 นิ้ว และขนาด 13 นิ้วหนา 1 นิ้ว 115 แผ่น นอกจากนี้ยังพบปมไม้ประดู่ทั้งหมด 20 ชิ้น น้ำหนักกว่า 1 ตัน กองอยู่ภายในโกดัง จากการตรวจสอบพบว่าพบร่องรอยการขนไม้เข้า ออกจากโกดังได้ไม่นาน

ขณะเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบ นางเอ (นามสมมุติ) ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน คนดูแลโกดัง จึงนำตัวมาสอบปากคำ ทราบว่า เป็นเพียงคนดูแลโกดัง อาศัยอยู่ที่นี่มานานนับ 10 ปี ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าของโกดังได้ให้กลุ่มคนขับรถบรรทุกเช่าโกดัง ซึ่งมีการนำไม้แปรรูปมาพักไว้ในโกดัง แต่ตนไม่ทราบว่าไม้แปรรูปเป็นไม้ที่ผิดกฎหมาย มีหน้าที่เพียงคอยเปิด-ปิดประตูโกดังขณะที่มีการขนไม้เข้าออกเท่านั้น ล่าสุดมีการขนไม้ออกจากโกดังเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจยึดไม้เถื่อนทั้งหมด ตนรู้สึกตกใจมาก ไม้คิดว่าไม้ทั้งหมดที่อยู่ในโกดังจะเป็นไม้เถื่อน

หลังจากสอบปากคำ นางเอ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกล่าวหา 1.ร่วมกันทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันมีไม้หวงห้ามชนิดอื่นแปรรูปมีปริมาตรเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันมีไม้ชิงชันแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่า ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ

และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติฯ ฐาน 1.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกัน ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนังานเจ้าหน้าที่ 2.รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่า ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติฯ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ดำเนินคดีต่อไป

ด้าน ร.ต.อ. ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส.ช่วยราชการ กก.4 บก.ป. หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ให้นโยบายเจ้าหน้าที่ฯ ในสังกัดได้เร่งรัดปราบปรามการกระทำความผิดด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ จึงได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานประสานข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิด รายดังกล่าว ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวนในพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และได้พบมีการแปรรูปไม้กลางป่าในพื้นที่ อำเภอแม่ริม พบกองไม้ประดู่ถูกแปรรูปไว้กลางป่า จึงได้มีการวางแผนนำเครื่องติดตาม GPS ไว้กับไม้แปรรูปล็อต ดังกล่าว หลังจากนั้นขบวนการลักลอบค้าไม้เถื่อนจึงได้ลำเลียงไม้แปรรูปออกจากพื้นที่ป่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยตามพบว่าไม้เถื่อนล็อตดังกล่าวถูกนำมาเก็บไว้ในโกดัง บริเวณดังกล่าวหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นและตรวจยึดไม้แปรรูปทั้งหมด

ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนข้อมูลเชิงลึก ไม้ประดู่และไม้ชิงชันล็อตนี้ได้มีการเตรียมส่งขายให้นายทุนชาวต่างประเทศ ด้วยการปะปนอำพรางกับสินค้าหัตถกรรม ส่งออกไปยังต่างประเทศทางเรือ ซึ่งไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ เป็นที่นิยมในกลุ่มชาวต่างชาติ เชื่อว่าเป็นไม้มงคล ทำให้มีความต้องการและมีราคาสูง ส่วนราคาไม้ชิงชันหากสามารถนำออกไปต่างประเทสได้จะมีราคากิโลกรัมล่ะ 1,500 บาท ส่วนไม้ประดู่ราคากิโลกรัมล่ะ 300 บาท ขณะที่ปมประดู่ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะพิการ จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมล่ะ 2 พันบาท ซึ่งหากไม้เถื่อนล้อตนี้หลุดรอดไปยังต่างประเทศ คาดจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ด้วยความเป็นไม้ที่มีราคาสูงจึงทำให้มีการลักลอบตัดไม้ประดู่และไม้ชิงชันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ อ.ฮอด อ.แม่แจ่ม และ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และบางพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับขบวนการลักลอบขนไม้เถื่อนได้บ่อยครั้ง ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้าไม้เถื่อนข้ามชาติกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป