คิ๊กออฟ “เลือกตั้งท้องถิ่น” เชียงใหม่ประกาศเป็นวาระจังหวัด รณรงค์ให้ความรู้

ยกเป็นวาระจังหวัดเชียงใหม่ “รณรงค์เลือกตั้งท้องถิ่นใสสะอาด” KICK OFF การให้ความรู้สร้างความเข้าใจให้ทุกภาคส่วน กกต. ส่งมอบสื่อผ่านทั้ง 25 อำเภอเพื่อนำไปกระตุ้นในระดับพื้นที่ ย้ำ “จนท.ให้วางตัวเป็นกลาง และออกไปใช้สิทธิโดยไม่ถูกครอบงำ” พร้อมสร้างสื่อหลากหลายแพลตฟอร์ม หลายภาษาสื่อให้เข้าใจในทุกพื้นที่ ส่วนโควิด-19 คาดว่าเอาอยู่ประสบการณ์มีผ่านมาแล้ว 2 สนามเลือกตั้งท่ามกลางวิกฤติโควิด-19

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 31 ส.ค. 63 ที่ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวิรุฬ พรรณเทวี รอง ผวจ.เชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รอง ผวจ.เชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ (ผอ.กกต.เชียงใหม่) พร้อมด้วยนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจัดกิจกรรม KICK OFF การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนทั่วไป และประกาศให้เป็นวาระจังหวัดเชียงใหม่

นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผอ.กกต.เชียงใหม่ กล่าวว่า การเตรียมการเลือกตั้งทาง กกต.จังหวัดได้เตรียมการมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ในปีนี้ก็มีสัญญาณด้านการเลือกตั้งภายในปี 2563 จึงมีความจำเป็นที่ต้องสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการต่างๆ และออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่ถูกครอบงำ ทราบกระบวนการ วิธีการ ขั้นตอนการเลือกตั้ง ซึ่งการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต้องคำนึงถึงความแตกต่างของประชาชนในแต่ละบริบทของพื้นที่ การนำเสนอเนื้อหา การใช้ภาษาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกร่วม ตระหนักรู้ เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผลจึงได้จัดทำคลิปวีดีโอความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น จำนวน 10 เรื่อง สปอตวิทยุ จำนวน 4 เรื่อง ละครสั้นวิทยุภาษาเหนือ (กำเมือง) และชนเผ่า 9 ภาษา ได้แก่ ภาษาชนเผ่าอาข่า, ลีซู, เมี่ยน, ม้ง, ลาหู่, กะเหรี่ยง (โป), กะเหรี่ยง (สะกอ), ภาษาเหนือ (กำเมือง) และภาษายอง พร้อมมีอินโฟกราฟิกเป็นแอนิเมชั่น 2D จำนวน 4 เรื่อง พร้อมแผ่นพับประชาสัมพันธ์

“พร้อมกันนี้อยากเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพ เพิ่มจำนวนร้อยละผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและลดจำนวนบัตรเสียในการเลือกตั้งท้องถิ่น สร้างภาคีเครือข่ายการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ภาครัฐรระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและหน่วยงานของรัฐระดับอำเภอท้องถิ่น การประชาสัมพันธ์เป็นอย่างถูกต้องครบถ้วน” ผอ.กกต.เชียงใหม่ กล่าว

นายเกรียงไกรฯ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อบจ. เทศบาล หรือ อบต. นอกจากจะศึกษาเรื่อง พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว ยังต้องศึกษา พรบ.ของ อบจ. เทศบาล หรือ อบต.ที่เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย ขณะที่ประชาชนก็ต้องติดตามข่าวสารจาก กกต.จังหวัด ติดตามจากสื่อมวลชน รวมถึงเสียงตามสายในหมู่บ้าน/ชุมชน และประกาศการเลือกตั้งในพื้นที่ว่า จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันไหน ซึ่งจะเลือกตั้งอะไรก่อนหลังนั้นต้องรอการประกาศ รวมถึงวิธีการลงคะแนนเสียงก็ควรศึกษาด้วยเพื่อลดอัตราบัตรเสียให้น้อยลง

นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผอ.กกต.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งในช่วงที่ยังต้องมีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่เป็นปัญหา เพราะที่ผ่านมา กกต. ได้มีการจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ที่จังหวัดลำปาง และครั้งที่สอง ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เป็นไปตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นก็จะมีการเพิ่มหน่วยเลือกตั้งเพิ่มจุดให้ลงคะแนน เพื่อลดความแออัด มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อสม. เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยในการตรวจวัดอุณหภูมิประชาชนที่เข้ามาใช้สิทธิ ทุกหน่วยเลือกตั้งจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย

ทั้งนี้การจัดกิจกรรม Kick Off การสร้างความรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนมีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์การเลือกตั้งท้องถิ่นที่สอดคล้องกับประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชนในแต่ละพื้นที่ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพเพิ่มจำนวนร้อยละของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและลดจำนวนบัตรเสียในการเลือกตั้งท้องถิ่น และเพื่อสร้างภาคีเครือข่ายการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ภาครัฐระหว่างสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดและหน่วยงานของรัฐระดับอำเภอและระดับท้องถิ่น