วันอังคาร, 3 ธันวาคม 2567

“มนัญญา” มอบหนังสือใช้ที่ดินทำกิน ย้ำสหกรณ์ช่วยเสริมเกษตรปลอดภัยสร้างรายได้เพิ่ม

20 ก.ค. 2020
1728

รมช.เกษตรและสหกรณ์ มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ (กสน.3) หนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) พร้อมสร้างการรับรู้งานนโยบายภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในพื้นที่อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 20 ก.ค.63 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ (กสน.3) หนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) จำนวน 88 ราย และมอบใบรับรอง GAP จำนวน 5 ราย พร้อมสร้างการรับรู้งานนโยบายภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่นิคมสหกรณ์พร้าว ตำบลแม่แวน อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอพร้าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโครงการ

จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะเยี่ยมชมแผนการเพาะปลูกพืชผักอินทรีย์ของสมาชิก เพื่อส่งขาย Modern Trade และร่วมปลูกต้นรวงผึ้ง ต้นไม้มงคลประจำรัชกาลที่ 10 ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การดำเนินการในรูปแบบนิคมสหกรณ์ เป็นการนำที่ดินมาจัดสรรให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยและทำการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกรพร้อมทั้งสร้างปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นและจัดหาสาธารณูปโภคมาบริการและส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกันตั้งสหกรณ์นิคมในพื้นที่นั้น เป็นสหกรณ์การเกษตรอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ดูแลส่งเสริมการประกอบอาชีพ การรวมกันซื้อรวมกันขาย การจัดหาสินเชื่อ ปัจจัยการผลิตและสิ่งจำเป็นเพื่อให้บริการแก่สมาชิก ปัจจุบันการจัดที่ดินในรูปแบบนิคมสหกรณ์มี 36 แห่งทั่วประเทศ และอยู่ในการกำกับดูแลของกรมส่งเสริมสหกรณ์

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์มีหลายโครงการที่เข้ามาสนับสนุนและดูแลเกษตรกรในเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์ทั่วประเทศ ทั้งการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะมีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และปรับปรุงที่ดินให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมแก่การเพาะปลูกพืชผักปลอดภัย ซึ่งสหกรณ์จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาการผลิตพืชผลทางการเกษตรให้ได้มาตรฐาน GAP พร้อมส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาการแปรรูปผลผลิต เพื่อยกระดับและเพิ่มพูนมูลค่าสินค้าและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด มีการวางแผนการผลิตร่วมกับสมาชิกในพื้นที่ โดยใช้ระบบการตลาดนำการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

“สิ่งสำคัญคือการผลิตสินค้าเกษตรต้องเป็นเกษตรแบบปลอดภัย ต้องทำเกษตรอินทรีย์ โดยลด ละ เลิก การใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผลผลิต ซึ่งจะเกิดประโยชน์ทั้งเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้สหกรณ์ต่างๆ เปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อนำผลผลิตพืชผักผลไม้ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และสินค้าต่างๆ ของสมาชิกมาวางจำหน่าย เป็นศูนย์กลางให้เกษตรกรนำผลผลิตมาขายโดยตรงกับผู้บริโภค อยากผลักดันให้โครงการนี้เห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่นิคมสหกรณ์มีเงินหมุนเวียนภายในชุมชน และทำให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกัน พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามหลักและวิธีการของสหกรณ์ได้” นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว