วันอังคาร, 3 ธันวาคม 2567

งามไส้!!! กรมส่งเสริมวัฒนธรรมของไทย หนุนวัฒนธรรมต่างชาติ ระดับ…ต้องไป!!! บนดินแดนเชียงใหม่

งามไส้!!! กรมส่งเสริมวัฒนธรรมของไทย
หนุน “วัฒนธรรมญี่ปุ่น” เป็นสถานที่ ต้องไป!!! บนดินแดนเชียงใหม่

ผมเห็นประกาศของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม รัฐบาลไทย ช่วงสายๆ ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 ตั้งใจว่าจะหยิบมาเขียนสะท้อนถึง ความไร้สำนึก!! ของ นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ซะหน่อย แต่กว่าจะเวลาเขียนได้ เกือบเย็นเข้าไปแล้ว

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ผมกับ “ฮิโนกิแลนด์” ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางเป็นการส่วนตัว หรือมีอคติอันใดแต่อย่างใดไม่ เป็นเพียงความเห็นโดยตรงต่อประกาศของกรมส่งเสริมวัฒนธรรมฉบับนี้เท่านั้น บทความนี้อาจจะกระทบบ้างต้องขออภัยเป็นการล่วงหน้า

มาดูตัวประกาศแบบเต็มๆ ก่อน ว่าทะเล่อทะล่า สักแค่ลงนาม!! ออกประกาศมาได้เยี่ยงไร…
ประกาศกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เรื่อง ผลการคัดเลือก ๑๐ แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป…..กระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบนโยบายให้คัดเลือกสุดยอดงานด้านวัฒนธรรม เพื่อประกาศยกย่องเชิดยูเกียรติ รณรงค์ให้มีการรักษามรดกศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้กับศิลปวัฒนธรรม ในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ทั้งนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้รับมอบหมายให้ดำเนินการคัดเลือก ๑๐ แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป นั้น บัดนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้คัดเลือก ๑๐ แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ๑. ดอยตุง จังหวัดเชียงราย ๒. ฮิโนกิแลนด์ จังหวัดเชียงใหม่ ๓. จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จังหวัดนครราชสีมา ๔ ปราสาทสัจธรรม จังหวัดชลบุรี ๕. สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี ๖. หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จังหวัดสุพรรณบุรี ๗. วู๊ดแลนด์ เมืองไม้ จังหวัดนครปฐม ๘. เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ๙. สยามนิรมิต กรุงเทพมหานคร ๑๐. ภูเก็ตแฟนตาซี จังหวัดภูเก็ต ประกาศ ณ วันที ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม

ผมพยายามค้นหาว่า เอามาตรฐานใดมาเป็นเกณฑ์ในการประกาศ “10 แหล่งวัฒนธรรมที่ต้องไป” ซึ่งมีหลายแห่งที่ติดค้างคาใจอยู่ว่า…

เองประกาศแบบนี้ได้เยี่ยงไร???

หาทั้งในเว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ทั้งค้นหาจาก “อาจารย์กู” ก็หาพบข้อมูลใดไม่ มีแต่รายงานเว็บที่ออกมากร่นด่า ในนั้นมีเพียงเว็บไซต์ “วอยซ์ ออนไลน์” ที่ต่อข่าวไว้ว่า …..สอบถามประเด็นดังกล่าวไปยังกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กลุ่มส่งเสริมเครือข่ายท้องถิ่นและชุมชน ถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาแต่ละแหล่งวัฒนธรรม โดย ผอ.มนัสศรี ตันไล้ เจ้าของเรื่องดังกล่าว ระบุว่า การคัดเลือกแต่ละสถานที่มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอยู่ 5-6 ข้อ ซึ่งแต่ละสถานที่ต้องมีวัฒนธรรมที่ชัดเจน แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นวัฒนธรรมไทยเท่านั้น โดยแต่ละสถานที่ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากการสำรวจข้อมูลและเสนอรายชื่อ ซึ่ง 10 แหล่งวัฒนธรรมตามประกาศที่ได้รับเลือกนั้น ถือเป็นแหล่งวัฒนธรรมที่มีการสร้างสรรค์ และวัฒนธรรมที่โดดเด่น…..ส่วนตัวยังไม่เห็นกระแสและความเห็นจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่มีต่อฮิโนกิแลนด์ และให้เหตุผลในการคัดเลือกสถานที่นี้ว่า “เป็นไปตามมติของกรรมการ”….. (ที่มา : https://www.voicetv.co.th/read/OLp_BcklM)

รายงานข่าวของ “วอยซ์ ออนไลน์” คาใจอยู่ 2 ประเด็น

ประเด็นแรก ผอ.มนัสศรีฯ ระบุว่า …..หลักเกณฑ์ในการพิจารณาอยู่ 5-6 ข้อ ซึ่งแต่ละสถานที่ต้องมีวัฒนธรรมที่ชัดเจน แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นวัฒนธรรมไทยเท่านั้น…..

ผมว่า…ผอ.เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ทั้งวิสัยทัศน์ ทั้งพันธกิจ ของกรมคุณระบุชัดว่า….
วิสัยทัศน์ “ภายในปี 2564 คนไทยมีค่านิยมที่เหมาะสม และประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดี โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมเป็นพลังในการขับเคลื่อน”
พันธกิจ “ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนในสังคมมีค่านิยมที่เหมาะสม…ส่งเสริม สนับสนุนการนำทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ…ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ให้มีศักยภาพ…ส่งเสริมภาคประชาชนให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม…ศึกษา วิจัยและจัดการความรู้ด้านวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาและเผยแพร่…ส่งเสริม และกำกับดูแลงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์”

แม้ว่าทั้ง “วิสัยทัศน์” ทั้ง “พันธกิจ” ไม่ได้บอกว่า “วัฒนธรรมไทย” แต่ด้วยความเป็นหน่วยงานของไทย องค์กรที่ทุกอนุกินภาษีของคนไทยทั่วประเทศ เพราะฉะนั้น วัฒนธรรมที่ว่าใน วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ต้อง!!! เป็น “วัฒนธรรมไทย” เท่านั้น!!!

อย่า…กระแดะ และอย่า…ตะแบง

เพราะฉะนั้นไอ้เกณฑ์ที่ ท่าน ผอ.ว่ามาน่ะ…ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นวัฒนธรรมไทยเท่านั้น!!! ท่านจะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันไม่ได้ตอบโจทย์ใดๆ งานของกรมฯ ท่านแต่อย่างใดทั้งสิ้น

คนระดับ…ผอ. น่าจะคิดได้กว้าง ได้เยอะ กว่านี้นะ ผมว่า…

ประเด็นที่ 2 ท่าน ผอ.บอกผ่าน “วอยซ์ ออนไลน์” มาอีกว่า….. “เป็นไปตามมติของกรรมการ”…..

ตรงนี้….เออ อยากเห็นหน้า กรรมการ!!! จริงๆ

ละอยากจะถามด้วยว่า…คนไทยหรือเปล่า????

ฝากตรงๆ ถึง “คน” ของ “กรมส่งเสริมวัฒนธรรม” ถ้ายัง…ไม่สำนึก ไม่สำเหนียก ว่า…ข้าเป็นคนไทย!!! ก็น่าสำเหนียกให้จงหนักถึง ข้าวแดงแกงร้อน ที่ได้กินได้ใช้ทุกวัน ว่ามันมาจาก ภาษีของคนไทยทั่วทั้งประเทศ

ผมฟันธงทิ้งท้ายไว้ตรงนี้เลยนะว่า…หากหน่วยงานของรัฐที่จะมาทำหน้าที่ในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย คิดได้แค่รัดนิ้ว มองไกลได้แค่หางอึ่ง เชื่อเหอะว่า….

วัฒนธรรมไทยป่นปี้ฉิบหาย!!! แน่นอน
“วายุ”