วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ปนัดดาบรรยาย “หลักสูตรหลักประจำ” ย้ำ “สถาบัน” ก่อเกิดความรักผูกพัน ก่อให้แผ่นดินไทยมั่นคงเป็นปึกแผ่น

17 มี.ค. 2018
2070

วันที่ 16 มี.ค. 61 เวลา 10.00-12.00 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม บรรยายพิเศษทางวิชาการให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม “หลักสูตรหลักประจำ” ตามพระราโชบาย รุ่นที่ 1/61 เป็นวันที่สอง ในการฝึกอบรมจิตอาสา ณ กองพันฝึกส่วนหลัง เขตพระราชฐานในพระองค์ฯ ถนนวิภาวดีรังสิต

ม.ล.ปนัดดา กล่าวในตอนหนึ่งของการบรรยายพิเศษว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อม ที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่บรรยายพิเศษเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติมาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน เป็นความรักความผูกพันของประชาชนชาวไทย ที่ได้ก่อให้เกิดความเป็นปึกแผ่นและความมั่นคงแก่แผ่นดินตราบทุกวันนี้ พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระราชทานความห่วงใยในเยาวชนและอนาคตของชาติบ้านเมือง พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้ช่วยกันเสริมสร้างคนดี มีความรู้ ประการสำคัญ คือ การมีคุณธรรม

ม.ล.ปนัดดา กล่าวต่อว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อครั้งทรงเป็นทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อนักศึกษาและลูกศิษย์ของพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ ทรงพระราชทานความรักความผูกพัน เช่น พระองค์ทรงโปรดให้นักศึกษานั่งประจำที่นั่งเดิมในห้องทรงบรรยายทุกครั้ง เพื่อจะสามารถจดจำหน้าตาและชื่อของลูกศิษย์ของพระองค์ท่านได้ และทรงมีรับสั่งกับลูกศิษย์อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ทรงถือพระองค์เลยแม้แต่น้อย พระราชจริยวัตรที่เรียบง่ายและงดงามทำให้นักศึกษา คณาจารย์ ตลอดจนบุคคลทั่วไปต่างมีความซาบซึ้งในพระเมตตาคุณและถวายความรักต่อพระองค์ด้วยความรู้สึกผูกพันใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่ง

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราโชบายด้านการศึกษา อันถือเป็นหัวใจที่จิตอาสาทุกท่านต้องช่วยกันเสริมสร้างแนวพระราชดำริด้านการศึกษานี้ให้เกิดความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมตามอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบที่แต่ละคนพึงมีการศึกษามุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ประกอบด้วย

1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง คือ มีความรู้ความเข้าใจต่อชาติบ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความเอื้ออาทรต่อครอบครัว และชุมชนของตน 2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรมจริยธรรม คือ รู้จักแยกแยะ สิ่งที่ผิดกับสิ่งที่ชอบ และสิ่งที่ชั่วกับสิ่งที่ดี ให้ปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบและสิ่งที่ดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิดและสิ่งที่ชั่ว ช่วยกันเสริมสร้างคนดีแก่ชาติบ้านเมือง

3. มีงานทำ คือ การมีสัมมาชีพอันสุจริต ได้แก่ การเลี้ยงดูอบรมบ่มสอนลูกหลานในครอบครัว การฝึกฝนอบรมในสถานศึกษา ต้องมุ่งให้เด็กและเยาวชนรักงาน มุ่งมั่นให้งานเกิดความสำเร็จ การฝึกฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตรต้องมีจุดมุ่งหมาย ให้ผู้เรียนทำงานเป็น และมีความชำนาญการ สนับสนุนให้ผู้สำเร็จหลักสูตรมีอาชีพ มีงานทำ จนสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และ 4. เป็นพลเมืองดีของชาติ ถือเป็นหน้าที่ของทุกคน ครอบครัว สถานศึกษา ส่วนราชการ และสถานประกอบการ ต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี ให้คนดีมีที่ยืน การเป็นพลเมืองดี คือ ‘เห็นอะไรที่จะทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ’ เช่น งานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศล ให้ทำด้วยความมีน้ำใจ ความเป็นสุภาพชน และความเอื้ออาทรต่อกัน

“ทั้งนี้ เพื่อให้อนาคตของชาติมีความเข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันที่ดี มีความมุ่งมั่นพากเพียรในการประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของสังคมและประเทศชาติ บ้านเมืองมีความมั่นคง พลเมืองในชาติมีความรู้รักสามัคคี ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข” ม.ล.ปนัดดา กล่าวปิดท้ายในการบรรยายพิเศษเป็นวันที่สอง