วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

อลังการงานสตรอว์เบอร์รี่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เริ่มแล้วที่สะเมิง ในงานมีให้ชิม ชม ช๊อป เพียบ

เทศกาลสตรอว์เบอร์รี่และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 17 ประจำปี 2561 เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ เริ่มวันนี้ไปสิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ.61 ไฮไลท์อยู่ที่การจำหน่ายผลผลิตคุณภาพดีจากเกษตรกรโดยตรง พร้อมพรีเซ้นเมืองท่องเที่ยวหลากหลายมิติบนพื้นฐานอัตลักษณ์สะเมิง

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 บริเวณหน้าโรงเรียนสะเมิงพิทยา อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลสตรอว์เบอร์รี่และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 17 ประจำปี พ.ศ. 2561” โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “38 ปี ใต้ร่มพระบาทมีสตอร์เบอร์รี่สะเมิง 4.0” เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงได้นำเอาสตรอว์เบอร์รี่มาให้ชาวอำเภอสะเมิงปลูกเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น และการทำไร่เลื่อนลอยเมื่อปี พ.ศ. 2522 จนถึงปัจจุบัน รวมเวลากว่า 38 ปี

ปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเสริมสตรอว์เบอร์รี่แปลงใหญ่ โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยและลดการใช้สารเคมี ส่งผลให้เกษตรกรทำน้อยแต่มีรายได้มากขึ้น ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ โดยวิถีเกษตรปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหลักการของสตรอว์เบอร์รี่ 4.0 ทำให้อำเภอสะเมิงมีพื้นที่ปลูกสตรอว์เบอร์รี่มากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่และประเทศ

ภายในงานปีนี้มีกิจกรรมมากมาย อาทิ การจำหน่ายสินค้า OTOP การประกวดสตรอว์เบอร์รี่ การประกวดธิดาชนเผ่า นิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กาดหมั้วครัวฮอม ตลาดสีเขียวและตลาดประชารัฐ การแสดงมหรสพ เช่น มวย รำวง สวนสนุก และแสดงกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

กิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ของการจัดงานครั้งนี้ยังเป็นการออกร้านจำหน่ายผลผลิตที่สำคัญทางการเกษตรของอำเภอสะเมิง อาทิเช่น สตรอว์เบอร์รี่ กล้วย กระเทียม ถั่วลิสง หญ้าหวาน เก๊กฮวย รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่เป็นของดีอำเภอสะเมิงมาขายให้กับผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวภายในงานอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเทศกาลสตรอว์เบอร์รี่และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 17 ประจำปี พ.ศ. 2561 ถือเป็นการจัดงานเพื่อการประชาสัมพันธ์อำเภอสะเมิงออกสู่ภายนอก มีการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ทั้งในเชิงเกษตร เชิงธรรมชาติ และเชิงวัฒนธรรม รวมถึงวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ของชาวอำเภอสะเมิง อีกทั้งยังเป็นการเสริมยุทธศาสตร์ในการท่องเที่ยวอารยธรรมของจังหวังเชียงใหม่อีกด้วย