วันอังคาร, 23 เมษายน 2567

กิ่วฝิ่น @ แจ้ซ้อน7 ยังตรึม ได้สัมผัสทะเลหมอกที่เดียว 4 จังหวัด

ยังคงคึกคักไม่ผิดหวังนักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่ไปชมทะเลหมอกที่ กิ่วฝิ่น หรือจุดชมวิดอยล้าน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ท่ามกลางสภาพาอากาศที่หนาวเย็นและ ทะเลหมอกที่มองให้เห็นได้อย่างชัดเจน ที่สามารถมองเห็นพื้นที่เขตรอยต่อได้ 4 จังหวัด

ที่บริเวณ ที่ทำการ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ แจ้ซ้อน 7 (ดอยล้าน) กรมอุทยานแห่งชาติแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขตติดต่อระหว่างจังหวัดลำปาง-จังหวัดเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เข้ามาเที่ยวชมทะเลหมอกที่ จุดชมวิว กิ่งฝิ่น หรือ ดอยล้าน ที่ ต้องเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 800 เมตร จากที่ทำการอุทยานแห เพี่อที่จะไปชม ทะเลหมอก และไปสัมผัสสภาพอากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิในช่วงเช้า ต่ำกว่า 15 องศาเซสเซียส

อีกทั้งช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงวันหยุดยาว ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่แหน เข้ามาชื่นชมทะเลหมอกและสัมผัสสภาพอากาศที่หนาวเย็น ที่ แต่ละคนที่มาแล้วต่างไม่ผิดหวังที่ได้เป็นธรรมชาติที่สวยงามได้อย่างชัดเจน ทำให้บรรยากาศพื้นที่แห่งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่ ได้รับการเปิดเผยข้อมูล นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ว่า จุดชมวิวกิ่วฝิ่น หรือ ดอยล้าน ในอดีตเป็นพื้นที่ที่ชาวเขาเผ่าม้งเคยใช้เป็นพื้นที่นัดพบเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า

รวมถึงการทำฝิ่น แต่หลังจากที่มีการปราบปรามอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ ทำให้ขบวนการเหล่านี้หมดสิ้นไป กลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนและท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,5217 เมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์และขุนเขาและความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ได้ไกลสุดตา ได้ถึง 4 จังหวัด คือ ลำปาง ลำพูน

เชียงใหม่ และเชียงราย เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้น-ตก รวมทั้งชมความงามของทะเลหมอกตอนเช้าตรู่ในช่วงฤดูหนาวได้ อยู่ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ที่ จซ 7 (ดอยล้าน) เป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดเชียงใหม่ อากาศเย็นช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม

เหมาะกับการตั้งเต็นท์พักแรม ที่ใครแต่ละคนที่มาพักท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้ต่างไม่ผิดหวังกับธรรมชาติที่สวยงาม โดยจุดชมวิวกิ่วฝิ่นสามารถ เดินทางมาได้ 2 เส้นทาง คือผ่านทางจังหวัดลำปาง ใช้เส้นทางห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน หรือน้ำตกแจ้ซ้อน บ่อน้ำแร่แจ้ซ้อนประมาณ 20 กิโล

และอีกเส้นทางมาจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านอำเภอแม่ออน ใช้เส้นทางบ้านแม่กำปอง ก็จะมาถึงจุดชมวิวกิ่วฝิ่นแห่งนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรผลาดเพราะแต่ละเส้นทางจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆและมีชื่อเสียงก่อนที่จะมาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามอีกครั้งหนึ่ง