วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ปัจฉิมานุสติ “กฤษฎา บุญราช” ฝากน้องๆ รับไม้ต่อ…ทุ่มเท/มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มพลัง

ตลอดระยะเวลา ๓๘ ปีในการรับราชการที่ผ่านมานั้น กระผมได้รับความเมตตากรุณาจากผู้บังคับบัญชาทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้ร่วมงานทุกฝ่ายทั้งในและนอกกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมและเอกชนต่างๆ ด้วยดีเสมอมา

ในช่วงสามปีที่กระผมทำหน้าที่อธิบดีกรมการปกครองและปลัดกระทรวงมหาดไทยนั้น เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำอย่างยิ่ง เพราะเห็นได้ชัดว่า พวกเราชาวมหาดไทยได้ปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชนอยู่ทุกหนทุกแห่งตลอด ๒๔ ชั่วโมง จนเกือบไม่มีวันหยุด เพราะทุกข์สุขของประชาชนไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในวันเวลาราชการเท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว พวกเราล้วนมีส่วนสำคัญในการช่วยกันทะนุบำรุงดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อยและมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนหลายเรื่อง นับตั้งแต่ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน งานบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง หมอกควันไฟป่า ภัยหนาว อุบัติเหตุทางถนนและทางน้ำ อาคารถล่ม อัคคีภัย หรืองานศูนย์ดำรงธรรมที่ได้เข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ประชาชนโดยตรง ขณะเดียวกันมีบ่อยครั้งที่ กระผมมิได้เพียงใช้การอำนวยการและประสานงานกับพวกเราผ่านหนังสือราชการเท่านั้น กระผมยังได้ใช้การติดต่อกับพวกเราผ่านทางระบบเทคโนโลยีการสื่อสารโดยการประชุมทางระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) ไปยังจังหวัดและอำเภอ รวมทั้งการใช้ช่องทางสื่อสังคม (social media) ผ่านระบบไลน์ (line) รวมทั้งการใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารกับพวกเราเกือบตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้พวกเรารู้สึกอึดอัดหรือกดดัน กระผมจึงใคร่ขออภัยท่านทั้งหลายมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เล็งเห็นว่ากระทรวงมหาดไทยมีกลไกส่วนราชการลงลึกถึงตำบล หมู่บ้าน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบงานนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลและมีการกำหนดนโยบายให้มีการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อเป็นการกระจายความเจริญออกไปในพื้นที่ต่าง ๆ โดยให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียงกันตามยุทธศาสตร์ชาติที่ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” (Stronger Together) และทุ่มเทงบประมาณผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาตำบลละ ๕ ล้านบาท หมู่บ้านละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท และ ๒๕๐,๐๐๐ บาท ตามลำดับ อีกทั้งได้รับมอบหมายให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวโดยการร่วม จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวผ่านระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ การป้องกันปราบปรามการลักลอบบังคับค้าประเวณีเด็กและหญิงต่างด้าวในสถานบริการ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนทุกมิติของศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ

ในขณะที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ก็ได้รับมอบหมายให้ปรับระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์กลางให้เป็นฐานข้อมูลหลักในการเชื่อมโยงงานบริการของส่วนราชการและภาคธุรกิจเอกชนต่าง ๆ เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการติดต่อกับส่วนราชการหรือเอกชนได้สะดวกรวดเร็วโดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวก็สามารถติดต่องานกับส่วนราชการหรือภาคเอกชนได้โดยไม่ต้องใช้หรือทำสำเนาเอกสารข้อมูลประชาชน อื่น ๆ อีกทั้งพวกเราชาวมหาดไทยยังได้ทำงานร่วมกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและ กกต. ในการจัดการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ ที่ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย เป็นต้น

เพื่อให้กลไกของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในระดับจังหวัดและอำเภอสามารถปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสนองความต้องการของประชาชนและสามารถแก้ไขปัญหาของพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทยจึงได้วางระบบการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (Area based) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยให้ผ่านกระบวนการจัดทำที่สะท้อนปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยผ่านการกลั่นกรองของคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการที่มีองค์ประกอบทั้งจากภาคราชการและภาคประชาชน รวมทั้งการริเริ่มจัดทำแผนพัฒนาภาค รวม ๖ ภาค ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ให้เป็นเครื่องมือในการกำหนดแผนงานและแผนงบประมาณของพื้นที่ (one plan) รวมทั้งยังได้กำหนดโครงสร้างหน่วยงานทั้งในระดับกระทรวงและจังหวัดให้มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนเป็นเอกภาพในการประสานงานตามแผนพัฒนาดังกล่าวร่วมกับกระทรวง กรมหรือหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ และภาคเอกชนด้วย

สำหรับความก้าวหน้าและขวัญกำลังใจของคนมหาดไทยนั้น ขอขอบพระคุณรัฐบาลที่ได้กรุณาให้ความเห็นใจพวกเราที่ทำงานในพื้นที่โดยได้อนุมัติทั้งในเรื่อง เพิ่มอัตรากำลังและค่าตอบแทนเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานระดับอำเภอจนถึงกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ที่ช่วยทำให้เกิดความพร้อมในการดูแลประชาชนในทุก ๆ เรื่องได้อย่างเข้มแข็ง

ประการสำคัญ กระทรวงมหาดไทยได้ยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติอย่างสูงสุด โดยนับแต่ปี ๒๕๕๘ เป็นต้นมา กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้มีโครงสร้างหน่วยงานภายในใหม่ทั้งในระดับกระทรวงและจังหวัดเพื่อให้มีเจ้าหน้าที่หรือองค์กรรับผิดชอบงานและการประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ เกี่ยวกับงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโดยตรง รวมทั้งการกำหนดให้จังหวัดจัดสรรงบประมาณพัฒนาจังหวัดในส่วนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไว้เป็นการเฉพาะด้วย

นอกจากนี้ในปี ๒๕๕๙ กระทรวงมหาดไทย ได้ขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขอแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงเกี่ยวกับการพิจารณาสถานะบุคคลหรือสัญชาติตามพระราชบัญญัติสัญชาติให้ครอบคลุมเด็กและเยาวชนที่เกิดในราชอาณาจักรไทย แต่มีบิดามารดาเป็นคนไร้สัญชาติให้มีสิทธิยื่นคำร้องขอมีสัญชาติได้ตามกฎหมายสัญชาติ รวมทั้งการให้กลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติเหล่านี้มีสิทธิในการศึกษาและรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามสิทธิขั้นพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ ซึ่งสอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน จนทำให้ประเทศไทยได้รับการยกย่องจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ว่า ไทยเป็นประเทศที่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐไร้สัญชาติ(stateless person) ที่ดีเป็นแบบอย่าง (champion) ไปทั่วโลก อีกทั้งแนวทางดังกล่าวยังเป็นการลดปัจจัยการก่อให้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ (human trafficking) ที่มีผลต่อการจัดระดับสถานะ (Tier) ของประเทศไทยให้มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในเวทีโลกอีกด้วย

เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่พวกเรามิได้คาดฝัน คือ การสูญเสียอย่างใหญ่หลวงที่สุดของประเทศ ซึ่งทำให้คนไทยทั้งชาติโศกเศร้าเสียใจในการเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กระทรวงมหาดไทยได้เป็นหน่วยงานดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้มีโอกาสเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในพระบรมมหาราชวัง รวมทั้งยังได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการเตรียมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในส่วนภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งในเรื่องการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลองและการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศรวม ๘๗๘ แห่ง การเตรียมดอกไม้จันทน์ การเชิญชวนประชาชนปลูกดาวเรืองหรือดอกไม้สีเหลืองเพื่อใช้ประดับในช่วงงานพระบรมศพ การจัดนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจและการจัดกิจกรรมอื่น ๆ ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งคนมหาดไทยก็ได้ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติงานเหล่านี้อย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้ย่อท้อต่างร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายที่สำคัญอันมีเกียรติยิ่งในครั้งนี้อย่างเต็มที่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ในโอกาสที่ กระผมจะเกษียณอายุราชการในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ นี้ กระผมขอขอบพระคุณท่านผู้บังคับบัญชา รวมถึงท่านปลัดกระทรวงหรือหัวหน้าส่วนราชการเทียบเท่าทุกกระทรวง ตลอดจนผู้ร่วมงานทุกท่านทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนและความร่วมมือทุก ๆ ด้านอย่างดียิ่งตลอดมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะตราตรึงอยู่ในชีวิตจิตใจของกระผมตลอดไป ในขณะเดียวกัน กระผมยังเชื่อมั่นว่า คนดีต้องมีที่ยืนอยู่ได้ในสังคม

ดังนั้น ขอเป็นกำลังใจให้ชาวมหาดไทยทุกท่านได้ยึดมั่นในคุณงามความดี ทุ่มเทและมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มพลังศักยภาพและความสามารถ ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริตและเสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชนตลอดไป

ขอขอบพระคุณทุกท่านครับ
กฤษฎา บุญราช
ปลัดกระทรวง มหาดไทย
๓๐ ก.ย. ๖๐