วันศุกร์, 6 ธันวาคม 2567

นอ.เมืองเชียงใหม่แจ้งความเอาผิด “ยักษ์ษา” ฟัน 2 ข้อหาอาญา โทษสูงสุดคุก 2 ปี

22 ก.ย. 2017
3613

“ศรัณยู” แจ้งความเอาผิดยักษ์ษา เชื่อผิดจะจะ 2 ข้อหาอาญา ดูหมิ่นเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา มีสิทธิ์เจอคุกสูงถึง 2 ปี ยันที่ต้องแจ้งความเป็นการปกป้ององค์กรและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ อีกทั้งเป็นการใช้สิทธิในการปกป้องชื่อเสียงตนเอง

วันที่ 22 ก.ย. 60 เวลา 16.15 น. นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้เดินทางไปยัง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับ นายเอกรินทร์ เจริญกิจ เจ้าของร้านยักษ์ ซึ่งได้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟสบุ๊ค “ยัก ษา” เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 60 อันเป็นการดูหมิ่นการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

“ถ้อยคำที่ได้กล่าวในไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค เห็นว่าเข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่ได้กระทำการตามหน้าที่ และยังมีข้อความที่ทำให้นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือเกลียดชังได้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิที่มีอันจะเป็นรักษาเกียรติยศชื่อเสียงขององค์กร เจ้าหน้าที่ และตนเองในฐานะผู้นำหน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่” นายศรัณยู มีทองคำ นอ.เมืองเชียงใหม่ กล่าว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 60 ที่ผ่านมา ได้แพร่ภาพผ่านเฟสบุ๊คชื่อ “ยัก ษา” โดยมีข้อความปรากฏว่า “…ร้านของเราเป็นร้านขายลาบ พนักงานตกงาน ตกงานเพราะอะไร เพราะคนบางคน เป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว อยากจะก้าวหน้าในชีวิตการงาน ไม่ทำให้มันดี ไม่เดินตามอย่างที่คนเขาทำกัน และสร้างความเดือนร้อนไปทั่ว มนุษย์พวกนี้เป็นมนุษย์หลายหน้า เดี๋ยวผมจะบอกว่ามันเป็นใคร ก็คนมาปิดร้านไงครับ ทำให้ร้านอาหารในแถบนี้ปิดเป็นแถวๆ ร้านในเชียงใหม่ มากกว่า 100 กว่าแห่ง ถ้าเขาบอกว่าทำตามมาตรา 44 ยอมรับครับ…”

“…..ขณะออกตรวจสอบ พบว่าร้านได้เปิดให้บริการลูกค้า โดยลูกค้านั่งอยู่มีเบียร์ลีโอวางอยู่บนโต๊ะ จำนวนประมาณ 50 คน ในคำสั่งไม่ได้ลงจำนวนเบียร์ 2 ขวด การเขียนข้อความแบบกำกวม ปกติการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ผมเห็นตำรวจเขาจะเขียนชัดเจน ไม่เขียนวกไปวนมา…..มีการส่งเราไปปรับที่ สภ.ช้างเผือก จริงๆ แล้วๆ กฎหมายเป็นปกติ จะต้องปรับครั้งแรกที่เราทำผิด ครั้งแรก 1,000 บาท ครั้งที่สอง 2,000 บาท ครั้งที่สาม 3,000 บาท แต่นี้เขากำชับให้ปรับ 3,000 บาท ตำรวจเขาเกรงใจก็ปรับตามนั้น เบียร์ลีโอ 2 ขวด แพงเหมือนกันนะ กำไรมันไม่เท่าไหร่…..ทำไม เบียร์ลีโอ 2 ขวด ถึงปิด 5 ปี ข้อหานี้ ถามจริงๆ ว่าฟังขึ้นหรือป่าว อยู่ๆ เด็กตกงาน แต่คุณได้ผลงาน ผลงานนี้ยื่นให้ คณะ คสช. แต่ผมเชื่อ ไม่ใช่เจตนารมณ์ของ คณะ คสช. ที่บริหารประเทศให้มาทำเช่น บุคคลคนนี้ คือ นายวธัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ จากวันนั้นถึงวันนี้ ที่มาเป็นนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประมาณปีครึ่งกว่าๆ ทำให้คนตกงานหลายพันคน การตรวจจับในจังหวัดเชียงใหม่ ผมตรวจสอบเจอ 147 แห่ง ที่พบกระทำผิดตั้งแต่เขามารับตำแหน่งนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ แต่ถูกสั่งปิดเพียงแค่ 10 กว่าแห่ง…..” ข้อความที่ปรากฏผ่านเฟสบุ๊ค

สำหรับความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา มาตร 136 ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

ทั้งนี้มูลเหตุของการที่ นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ แจ้งความดำเนินคดีต่อ นายเอกรินทร์ เจริญกิจ เจ้าของร้านยักษ์ษา (ลาบดอนมดแดง) สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสั่งปิดสถานประกอบการ ร้าน “ยักษ์ษา” ตามคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 4193/2560 และอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้รายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณีร้านยักษ์ษา (ลาบดอนมดแดง) ย่านสันติธรรรมพลาซ่า ตำบลช้างเผือก ดังนี้ ด้วยย่านสันติธรรมพลาซ่า เป็นย่านจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แบ่งเป็นห้องแบ่งเช่าและลานกลางแจ้ง ที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ออกตรวจตรากวดมาโดยตลอดพบว่า ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ

กระทั่งประมาณเดือนมิถุนายน 2560 ได้รับการร้องเรียนว่า ร้านยักษ์ษา ได้เปิดให้บริการถึงหกโมงเช้า ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 60 ต่อเนื่องวันที่ 17 มิ.ย.60 เวลาประมาณ 01.20 น. ชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ตรวจพบว่าร้านยักษ์ษา ยังคงเปิดให้บริการอยู่ มีผู้นั่งดื่มสุราและเบียร์ประมาณ 50 คน และได้ตรวจพบใบเสร็จรับเงินค่าเบียร์ยี่ห้อลีโอ จำนวน 2 ขวด บริเวณเคาท์เตอร์เก็บเงินของร้านยักษ์ษา โดยผู้ดูแลร้านยักษ์ษา รับสารภาพว่าได้จำหน่ายเบียร์ดังกล่าวจริง จึงได้บันทึกจับกุมดำเนินคดีส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยการเปรียบเทียบปรับคดีจึงสิ้นสุดในชั้นพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตามอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ดำเนินการเสนอสั่งปิดร้านยักษ์ษา เป็นระยะเวลา 5 ปี เนื่องจากประกอบกิจการขัดต่อ คำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ตามขั้นตอนการพิจารณาโทษทางปกครอง กระทั่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งที่ 4193/2560 ลงวันที่ 8 กันยายน 2560 ให้ปิดร้านยักษ์ษา เป็นเวลา 5 ปี ตั้งวันที่ 16 ก.ย. 60 ถึงวันที่ 15 ก.ย. 65 จึงเป็นเหตุให้ร้านยักษ์ษา จัดงานประชดคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ดังที่ปรากฏในสังคมโซเชียล ซึ่งอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงานจะได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้คำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 4193/2560 ดังกล่าวระบุว่า สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการร้านยักษ์ษา กระทำความผิดฐาน “ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเหนือจากเวลาที่กฎหมายกำหนด” เป็นความผิดตามมาตรา 28, 39 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันหรือเวลาที่รัฐมนตรีประกาศ นอกจากนี้ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 (4) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ ซึ่งคำสั่ง คสช. ดังกล่าวระบุไว้ว่า ในกรณีที่สถานบริการหรือสถานประกอบการใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ซึ่งระบุการกระทำอันเป็นความผิดไว้ 5 ฐานความผิด คำสั่ง คสช. 22/2558 ระบุให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาต หรือสั่งปิดและห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการในสถานที่ดังกล่าวอีกเป็นเวลา 5 ปี และหากอยู่ในระหว่างการขอต่ออายุใบอนุญาต ก็ให้สั่งมิให้ต่ออายุใบอนุญาต และมิให้ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้นั้นเป็นเวลา 5 ปี เช่นกัน

กรณีที่เกิดขึ้นอันเป็นการกระทำท้าทายคำสั่ง คสช.22/2558 ของร้านยักษ์ษา ด้วยการถ่ายทอดสดประชัดคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ โดยระบุว่า “ขายเบียร์ 2 ขวด ถูกปิด 5 ปี” ซึ่งทางร้านยักษ์ษาได้จัดขึ้นหลังจากที่ชุดจัดระเบียบสังคมอำเภอเมืองเชียงใหม่นำคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ไปแจ้งให้ร้านยักษ์ษารับทราบเมื่อวันที่ 13 ก.ย.60 ที่ผ่านมา โดยการจัดการถ่ายทอดสดการจัดเลี้ยงการสกรีนเสื้อยืด พร้อมทั้งเปิดการจัดเลี้ยงหลังจากที่คำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ฉบับดังกล่าวมีผลบังคับในวันที่ 16 กันยายน 2560