สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ตามศาสตร์พระราชามีรายได้เดือน 4 หมื่นบาท สวนเกษตรทฤษฎีใหม่แบบผสมผสานผลไม้พืชผักบ่อปลาในพื้นที่ 8 ไร่ หมุนเวียน ขายได้ตลอดทั้งปี ยังเป็นเกษตร 4.0 ที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ผลผลิตไม่ต้องออกเร่ขายมีคนมารับซื้อจองถึงสวน โดยเฉพาะลองกองและ เงาะมีคุณภาพไม่แพ้ของภาคตะวันออกหรือภาคใต้
ที่สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ ของนายชาตรี สุวรรณพันธ์ อายุ 50 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 176/4 ตำบลป่าไหน อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้จัดแบ่งส่วนไว้ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานแนะนำให้แก่ปวงชนชาวไทยทั้งมวลนำมาปรับใช้ โดยในช่วง 10 ปีหลังนี้ มีการปลูกไม้ผลแบบผสมผสาน หลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งมะม่วง ลำไย กระท้อน เงาะ ลองกอง ทุเรียน น้อยหนา มะพร้าว กล้วยลูกผสม นอกจากนี้ยังทำการปลูกพืชพักสวนครัวเสริมให้หมุนเวียนเก็บขายได้ตลอด โดยในทุกเดือนจะมีผลไม้ให้ผลผลิตสามารถเก็บขายได้โดยตลอด พร้อมทั้งทำการขุดบ่อเลี้ยงปลา มีปลาไว้กินเองและนำออกจำหน่ายได้อีกด้วย
หลังจากการปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชแบบผสมผสาน และจากการที่มีผลผลิตออกจำหน่ายในทุกวันตลอดทั้งปี ส่งผลให้ในแต่ละเดือนสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวมากถึง 4 หมื่นบาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ ลองกองที่ปลูกไว้เมื่อ 8 ปีก่อน จำนวน 5 ต้น ได้ให้ผลผลิตแล้ว สามารถเก็บขายได้ โดยเฉลี่ยต่อต้น ขายได้ราว 2,000 ถึง 2,500 บาท ซึ่งจะมีพ่อค้าและชาวบ้านมาจองไว้ตั้งแต่ก่อนออกลูก รวมไปถึงเงาะที่ผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าของภาคใต้และตะวันออก เงาะที่นี่จะมีเนื้อหนา แห้ง ไม่ติดเม็ด จนเป็นที่ต้องการของพ่อค้าแม่ค้าแม้กระทั่งชาวบ้านซึ่งต้องมาจองไว้ก่อน ตอนนี้ก็เริ่มตัดขายได้ ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกราว 2 -3 พันบาท เป็นรายได้เสริมเพิ่มเข้ามา
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการปลูกข้าวซึ่งมีเพียงพอสำหรับบริโภคตลอดทั้งปี ส่งผลให้ทุกวันนี้แทบจะไม่ต้องซื้ออะไรมาปรุงเป็นอาหารเลย นอกจากเนื้อสัตว์เท่านั้น เพราะทุกอย่างมีในสวนแทบทั้งสิ้น สามารถหมุนเวียนทั้งมีไว้กิน มีไว้ขายได้ตลอดทั้งปี
ที่สำคัญอีกประการ ผลผลิตที่ได้จากการปลูกพืชแบบผสมผสานนี้ ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพดีกว่าการปลูกแบบเชิงเดี่ยวมาก อย่างเช่น น้อยหน่า จะเห็นได้ว่าลูกจะมีขนาดใหญ่มาก ลูกหนึ่งก็ราว 400-500 กรัม หรือเกือบครึ่งกิโลกรัม ใหญ่พอๆ กับหน้าเด็กๆ นอกจากนี้ยังมี กล้วยน้ำว้าพันธุ์ผสม ซึ่งมีความพิเศษกว่า ทั้งขนาดของต้นที่ใหญ่ ให้ผลผลิตต่อเครือมากกว่า แต่ละเครือสามารถให้ผลผลิตได้มากถึง 17 หวี
ทั้งนี้การทำการเกษตร ตามหลักหรือแนวทางเกษตรทฤษฎีให้ ตามศาสตร์ของพระราชานั้น ผลผลิตที่ได้ประการแรกคือ ความพอเพียง พอมีพอกิน ถึงจะไม่ร่ำรวยมาก แต่จะมีความสุขมากจากการที่ได้ลงมือทำและเห็นผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกวันตลอดทั้งปี ก็มีความสุขจากรายได้ที่ได้ทุกวัน ในแต่ละวันหมุนเวียนกันไปตลอดทั้งปี
ขณะนี้สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ ของนายชาตรี สุวรรณพันธ์ ได้ก้าวไปอีกขั้น เพราะการจะก้าวเป็นประเทศไทย 4.0 “ชาตรี” จึงได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสรมการผลิตในด้านต่างๆ เป็นเกษตรกรที่ทันสมัยภายใต้แนวทางแห่งศาสตร์พระราชานั่นเอง