วันพฤหัสบดี, 18 กันยายน 2568

เชียงใหม่ตั้งคณะทำงานถอดบทเรียน “เหตุดินถล่มปางอุ๋ง-ดอยแหลม” วางกรอบเวลาให้เสร็จภายใน 30 วัน

“ผู้ว่าทศพล” สั่งตั้งคณะทำงานถอดบทเรียน “เหตุดินถล่ม” วางกรอบเวลาให้เสร็จภายใน 30 วัน ใช้เหตุดินถล่มบ้านปางอุ๋ง แม่แจ่มเป็นหลัก พร้อมย้อนไปถอดบทเรียนเหตุที่ดอยแหลม อ.แม่อาย ที่เกิดในปี 2567 ด้วย ชี้ อปท. ต้องเข้ามามีบทบาทให้มากกว่านี้ หวังจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ได้มาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลในอนาคต

วันที่ 12 ก.ย. 68 ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำปิง ครั้งที่ 7/2568 โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงาน สนทช. ชลประทาน โยธาธิการฯ ปภ. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านน้ำ ร่วมประชุม และมีการประชุมผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์ไปยังจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปิง

ทั้งนี้มีวาระสำคัญเข้าสู่การพิจารณาเห็นชอบของคณะกรรมการลุ่มน้ำปิง จำนวน 4 เรื่อง ได้แก่ การพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อการอนุญาตใช้น้ำประเภทที่สอง จำนวน 1 ราย การพิจารณาหลักเกณฑ์ในการจัดลาดับความสำคัญแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบบประมาณ พ.ศ. 2570 การแจ้งเตือนภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม พื้นที่เสี่ยงลุ่มน้ำปิง และการจัดทาทะเบียนแหล่งน้ำสาธารณะพื้นที่ลุ่มน้ำปิง

สำหรับวาระการแจ้งเตือนภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม พื้นที่เสี่ยงลุ่มน้ำปิง ซึ่งนำเสนอโดยผู้แทนจากกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และโอกาสที่จะเกิดดินถล่ม พร้อมแผนการดำเนินงานของกรมทรัพยากรธรณีในการแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่ม ปี 2568-2569 โดยเหตุการณ์แผ่นดินถล่มในจังหวัดเชียงใหม่ ที่สร้างความเสียหายอย่างมาก และมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 แผ่นดินถล่มบริเวณบ้านดอยแหลม อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 3 คน และครั้งที่เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาาคม 2568 ที่บ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม สร้างความเสียหายอย่างมากเช่นกัน ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 15 ราย สูญหาย 3 ราย

นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำปิงวันนี้ได้มีการสั่งการให้ตั้งคณะทำงานถอดบทเรียนในเรื่องการเกิดดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่บ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และที่บ้านแหลม อ.แม่อาย อยากจะดูว่าวันเกิดเหตุพี่น้องประชาชนได้รับรู้อะไรบ้าง มากน้อยเพียงใด จริงแล้วเชียงใหม่มีระบบ API ค่าวัดความชุ่มชื้นของดิน ซึ่งส่วนอุทกวิทยา สำนักงานทรัพยากรน้ำภาคที่ 1 มีค่าเหล่านี้ หากแต่ไม่ละเอียดลงไปถึงป๊อกบ้าน หย่อมบ้าน เชียงใหม่มี 2,066 หมู่บ้าน ในหนึ่งหมู่บ้านโดยเฉพาะบ้านบนดอยจะมีบ้านอยู่ห่างๆ กัน ซึ่งเรียกกันว่าป๊อกบ้าน หย่อมบ้านกระจายๆ กันไป หนึ่งหมู่บ้านอาจมี 3 ป๊อกบ้าน 4 ป๊อกบ้าน การกระจายของกลุ่มบ้านป๊อกบ้านเหล่นนี้กลายเป็นปัญหาที่ตัวเซ็นเซอร์ในการวัดค่า API ซึ่งมีราคาสูงจะกระจายไปได้อย่างไร เหล่านี้จะมีคณะทำงานมาถอดบทเรียนให้ได้ข้อมูลต่างๆ ภายใน 30 วัน

“ทั้งนี้เพื่อทบทวนว่าระบบเตือนต่างๆ ในเรื่องดินสไลด์ที่มีอยู่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากน้อยอย่างไร ควรจะมีแนวทางการพัฒนาต่อยอดได้อย่างไร หลักการคือ ควรจะมีคนดูแลระบบเหล่านี้ ซึ่งอาจจะให้ท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการจัดหา Sensor ก็จะเป็นการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ววางแนวทาง กำหนดนวัตกรรม รูปแบบในการป้องกันแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากขึ้นกว่าเดิม” ผวจ.เชียงใหม่ แจง

นายทศพล เผื่อนอุดม กล่าวต่อว่า ข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งในส่วนของภาคราชการ ทั้งของประชาชน พื้นที่ จะถูกนำมาวิเคราะห์เพิ่มเติม กรณีแผ่นดินไหวมีส่วนหรือไม่กับเรื่องดินสไลด์ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่อาย คณะกรรมการที่จะมาทำงานเพื่อถอดบทเรียนล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้ความสามารถทั้งนั้น ก็คาดว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และหามาตรการป้องกันในอนาคตต่อไป